มารู้จักรากฟันเทียม Straumann
มาทำความรู้จักกับรากฟันเทียมยี่ห้อ Straumann กันนะคะ ว่าทำไมถึงราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ และโรงพยาบาลหรือคลินิกชั้นนำถึงเลือกใช้
บริษัท Straumann ก่อตั้งโดย Dr. Reinhard Straumann ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เริ่มแรกธุรกิจของบริษัทยังไม่ใช่การผลิตรากฟันเทียม แต่เป็นผู้ชำนาญในเรื่องการผลิตโลหะผสมที่ใช้ในชิ้นส่วนของการทำนาฬิกา สืบเนื่องมายังรุ่นลูก Dr H.C. Fritz Straumann ได้สนใจเรื่องการพัฒนาวัสดุที่ใช้ในการยึดกระดูกที่แตกหักที่ใช้กันในวงการแพทย์ จนนำมาสู่การวิจัยและผลิตรากฟันเทียมยี่ห้อนี้ เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1974 ซึ่งนับได้ว่าเป็นยุคแรกของรากฟันเทียมสมัยใหม่
รูป การออกแบบรากฟันเทียมรุ่นแรก ของ Straumann
มาถึงปัจจุบัน บริษัทได้เติบโตทางด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก ได้มีการซื้อกิจการของบริษัทชั้นนำต่างๆมาบริหารต่อ ทำให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ครองตลาดรากฟันเทียมอันดับหนึ่งของตลาดโลก
จุดเด่นของรากฟันเทียม straumann คือ ผิวรากฟันเทียม SLA ซึ่งบริษัทเป็นผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมาเป็นรายแรกมีความโดดเด่นในเรื่องการยึดเกาะของกระดูกบนผิวรากฟันเทียม มีงานวิจัยรองรับความสำเร็จเป็นจำนวนมากมายจากทั่วโลก จนมีหลายๆบริษัทได้ทำตามในการใช้ผิวรากฟันเทียมแบบ SLA นี้
Straumann ยังได้มีการพัฒนาเรื่องการยึดเกาะของกระดูกบนรากฟันเทียมต่อไปอีกจนกระทั้งได้วิธีการที่ทำให้กระดูกยึดเกาะกับรากฟันเทียมเร็วขึ้นไปอีกด้วยเทคโนโลยีควบคุมสภาพผิวรากเทียมที่เรียกว่า SLActive
SLActive ทำให้ระยะเวลาการรอกระดูกยึดติดกับรากฟันเทียม จาก 6-8 สัปดาห์ใน SLA เหลือเพียง 3-4 สัปดาห์ใน SLActive
นอกจากนี้ นวัตกรรมที่เรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุดในการวิจัยวัสดุที่ทำรากฟันเทียมให้แข็งแรงมากขี้นกว่าโลหะ Titanium ซึ่งทุกบริษัททั่วโลกใช้กันเป็นมาตราฐาน นั่นก็คือ โลหะผสมที่บริษัทเรียกว่า Roxolid (titanium- zirconium alloy) ซึ่งเป็นความสำเร็จของ Straumann ที่วิจัยว้สดุนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทำให้ได้รากฟันเทียมที่แข็งแรงมากกว่า Titanium ธรรมดา แต่ยังคงไว้ซึ่งการยึดติดกับกระดูกได้ดีตามมาตราฐานของ SLA surface
ความแข็งแรงของวัสดุ Roxolid เทียบกับ Titanium