โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า โรคเหงือกอักเสบ โดยทั่วไปมักจะหมายถึงโรคเหงือกอักเสบและโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ รวมถึงการทำศัลยกรรมเหงือกและการปลูกถ่ายเหงือก
โรคเหงือกอักเสบ GINGIVITIS
โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นอาการอักเสบของเหงือกซึ่งเกิดการสะสมของแบคทีเรียบางชนิด การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ผลข้างเคียงของการรับประทานยา และปัจจัยต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่
โรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ PERIODONTITIS
โรคปริทันต์อักเสบ หรือ โรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ (Periodontitis) เกิดจากการละลายของรากฟัน เป็นสาเหตุของอาการฟันโยกและอาจต้องทำการถอนฟันทิ้งไปในที่สุด และยังเป็นสาเหตุของกลิ่นปากอีกด้วย
อาการบ่งชี้ของโรคปริทันต์
- เหงือกบวมแดง
- มีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน
- เหงือกร่น
- ฟันโยก
- อาจมีหนองออกตามร่องเหงือก
- มีกลิ่นปาก
การรักษาโรคเหงือก...
โดยทั่วไปโรคเหงือกหรือโรคปริทันต์ จะเกี่ยวข้องกับสะสมของคราบหินปูน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่การรักษาจะต้องมีการขูดหินปูน และเกลารากฟัน(root planing) ร่วมด้วย
ขั้นตอนการรักษา
- การรักษาจะต้องมีการขูดหินปูน และเกลารากฟัน (root planing) ร่วมด้วย โดยจะขูดหินปูนทั้งบนตัวฟัน และส่วนที่อยู่บนผิวรากฟันภายในร่องปริทันต์ ส่วนการเกลารากฟัน คือ การทำให้ผิวรากฟันเรียบเพื่อให้เนื้อเยื่อเหงือกสามารถกลับมายึดแน่นติดกับผิวฟันได้เหมือนเดิม ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องทำซ้ำหลายๆครั้ง
- หลังจากรักษาเสร็จแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะเรียกกลับมาดูอาการอีกครั้ง ในคนไข้บางคน
- คนไข้จะต้องทำความสะอาดฟันและซอกฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ โดยใช้แปรงและไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อที่จะกำจัด
- ควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจดูว่ามีคราบจุลินทรีย์และหินปูนหลงเหลืออยู่หรือไม่